Electronic Components Tester
แนะนำการใช้งาน Multi-function Tester เครื่องนี้สามารถวัดอุปกรณ์ได้หลายอย่างมากสมกับคำว่า Multi-Function Tester จุดเด่นที่สำคัญคือใช้งานง่าย.....แต่ก่อนใช้งานต้องรู้วิธีการวัดก่อนรวมถึงรู้ความสามารถและข้อจำกัดของเครื่องวัดนี้ อ่านให้ครบทุกข้อ 1-5 จนจบเพื่อจะได้ข้อมูลครบถ้วนและไม่พลาดข้อมูลที่สำคัญแล้วจะเข้าใจการใช้งานมากยิ่งขึ้น เครื่องนี้สามารถวัดอุปกรณ์พื้นฐานในแผงวงจรครอบคลุมอุปกรณ์ส่วนมากที่นิยมใช้งาน เช่น ตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ ตัวเหนี่ยวนำ ไดโอด ซีเนอร์ไดโอด LED เอสซีอาร์ ไตรแอค ไอจีบีที มอสเฟต เป็นต้น เป็นเครื่องวัดที่ช่างควรมีไว้ประจำโต๊ะซ่อมนอกจากมัลติมิเตอร์แบบเข็มและมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล ประเด็นสำคัญที่จำเป็นต้องทราบมี 5 ข้อดังนี้
1. Socket และ การเสียบขาอุปกรณ์
2. การตีความหมายผลการวัด ดี / เสีย
3. ข้อจำกัดในการวัดอุปกรณ์ของเครื่อง Multi-function Tester
4. ขอบเขตที่ควรใช้งาน
5. การคาลิเบรต หรือ การทดสอบเครื่อง ( Self Test )
แบบใช้แบต 9V สามารถหาปากคีบลักษณะคล้ายตามรูปนี้มาทำสายวัด
1. Socket และ การเสียบขาอุปกรณ์ แบบใช้ถ่าน 9V กับแบบชาร์ตไฟได้ มีตำเหน่งช่องเสียบที่แตกต่างกันโดยแบบใช้ถ่าน 9V จะระบุตำเหน่งช่องเป็น 12311111 โดยตรงที่ชื่อตำเหน่ง 11111 จะต่อถึงกันหมด ขณะที่แบบชาร์ตไฟได้จะระบุชื่อตำเหน่งช่อง KAA1233 ช่องที่มีชื่อตำเหน่งเหมือนกันจะต่อถึงกัน
การเสียบขาอุปกรณ์
อุปกรณ์ที่มี 2 ขา------------> ให้เสียบช่อง 1 กับ 2 , 2 กับ 3 , 1 กับ 3 คู่ช่องใดก็ได้ตามที่เสียบได้สะดวก
อุปกรณ์ที่มี 3 ขา------------> ให้เสียบช่อง 123
การวัดซีเนอร์ไดโอดสำหรับรุ่น TC1 ช่อง A ให้เสียบขาแอโนด ช่อง K ให้เสียบขาคาโทดตามสเปคบอกว่ารุ่น TC1 สามารถวัดแรงดันซีเนอร์ไดโอด 0.01-30V
แถบวัดอุปกรณ์ SMD ใช้วัดอุปกรณ์ SMD ที่ไม่รู้จักว่าเป็นตัวอะไร ? วัดเพื่อให้รู้ว่าเป็นทรานซิสเตอร์ ไดโอด ตัวต้านทาน SMD คาปาซิเตอร์ SMD หรืออุปกรณ์ๆ และวัดเพื่อให้รู้ว่าดีหรือเสีย
ช่อง KAA ใช้วัดซีเนอร์ไดโอด ช่อง A ให้เสียบขาแอโนด ช่อง K ให้เสียบขาคาโทด
2. การตีความหมายผลการวัด ดี/เสีย หลักการก็คือต้องรู้จักชื่ออุปกรณ์ และสเปคที่สำคัญของมัน ถ้าอุปกรณ์ปกติหน้าจอจะแสดงชื่ออุปกรณ์พร้อมสเปคที่สำคัญ หรือบางกรณีบอกกลุ่มของอุปกรณ์แทนเช่นวัดซีเนอร์ไดโอด วัด LED เครื่องวัดจะบอกว่าเป็นไดโอด ให้อ่านข้อ 3เพิ่มเรื่อง ข้อจำกัดในการวัดอุปกรณ์ของเครื่อง Multi-Function Tester ตัวอย่างเบอร์อุปกรณ์สามารถบอกชนิดอุปกรณ์ได้
2SAXXX เป็นทรานซิสเตอร์ชนิด PNP ใช้งานย่านความถี่สูง
2SBXXX เป็นทรานซิสเตอร์ชนิด PNP ใช้งานย่านความถี่ต่ำ
2SCXXX เป็นทรานซิสเตอร์ชนิด NPN ใช้งานย่านความถี่สูง
2SDXXX เป็นทรานซิสเตอร์ชนิด NPN ใช้งานย่านความถี่ต่ำ
2SJXXX เป็น FET P แชนแนล
2SKXXX เป็น FET N แชนแนล
2NXXX เป็นทรานซิสเตอร์
IRFXXX เป็นมอสเฟต
MJEXXX เป็นทรานซิสเตอร์จานบิน ( TO-3 )
BTAXXX เป็นไตรแอค
TMGXXX เป็นไตรแอค
2.1 วัดตัวต้านทาน ถ้าตัวต้านทานดีจะแสดงชื่อเป็น Resistor พร้อมค่าความต้านทาน
วัด VR ลองหมุนถ้าค่าเปลี่ยนตามการหมุนคือดี เอา 2 ค่ารวมกัน = 2K Ohm
2.2 วัดตัวเก็บประจุ ถ้าตัวเก็บประจุดีหน้าจอจะแสดงชื่อุปกรณ์เป็น Capacitor พร้อมค่าความจุ ให้คายประจุหรือดิสชาร์จก่อนวัดตัวเก็บประจุทุกครั้ง
ตัวเก็บประจุค่า 22UF พิมพ์ไว้ที่ตัวสินค้าวัดได้ 21.57UF ถือว่า C สภาพดี เพราะได้ค่าใกล้เคียง2.3 วัดไดโอด ซีเนอร์ไดโอด LED ถ้าอุปกรณ์สภาพดีหน้าจอจะแสดงชื่อเป็นไดโอดเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มเดียวกัน พร้อมแสดงแรงดันตกคร่อมไดโอด ( Vf) เครื่องวัดรุ่นใช้แบต 9V จะแสดง ซีเนอร์ไดโอดเป็นไดโอดแทน ส่วนเครื่องวัดรุ่น TC1 แบบชาร์ตไฟได้จะมีช่องวัดซีเนอร์ไดโอดโดยเฉพาะคือช่อง KAA ให้เสียบขาอาโนดที่ช่อง A และคาโทดที่ช่อง K
รุ่นนี้มีช่องสำหรับวัดซีเนอร์ไดโอดโดยเฉพาะ ให้เสียบอาโนดที่ช่อง A ขาคาโทดที่ช่อง K
รุ่นราคาถูกแบบใช้ถ่าน 9V เมื่อวัดซีเนอร์ไดโอด จะแสดงผลเป็นไดโอดแทน
2.4 วัดวาริสเตอร์ ถ้าวาริสเตอร์สภาพดีจะแสดงเป็นคาปาซิเตอร์แทน เนื่องจากวาริสเตอร์ปกติ 2 ขาจะไม่ต่อถึงกันวัดด้วยโอห์มมิเตอร์เข็มก็ไม่ขึ้นสักครั้ง ให้สังเกตสภาพของวาริสเตอร์ด้วยว่าอยู่ในสภาพดีไม่มีรอยไหม้
วัดวาริสเตอร์ Varistor ถ้าวาริสเตอร์สภาพดีจะแสดงเป็นคาปาซิเตอร์แทน
2.5 วัดทรานซิสเตอร์ ให้เสียบช่อง 123 ถ้าอุปกรณ์สภาพดีจะแสดงชื่อเป็น Transistor พร้อมระบุชนิดว่าเป็นชนิด NPN หรือ PNP และบอกอัตราขยายของทรานซิสเตอร์ (hFE) ด้วย ถ้าทรานซิสเตอร์สภาพดีไม่ซ๊อตไม่ขาดต้องมีอัตราขยาย ปกติอัตราขยายของทรานซิสเตอร์จะมีปริมาณ หลายเท่า - หลายร้อยเท่า
วัดทรานซิสเตอร์จานบิน ถ้าทรานซิสเตอร์ดีจะมีอัตราขยาย ( hFE )
2.6 วัดมอสเฟตให้เสียบช่อง 123 ถ้าอุปกรณ์สภาพดีจะแสดงชนิดมอสเฟตว่าเป็นชนิด P แชนแนลหรือ N แชนแนลพร้อมแสดงแรงดันทริกขา G ( Vt)
MOSFT Test2.7 วัดอุปกรณ์กลุ่มไทริสเตอร์ เช่น SCR ไตรแอค ให้เสียบช่อง 123 ถ้าอุปกรณ์สภาพดีจะแสดงหน้าจอตามรูปด้านล่าง
วัดไตรแอค หน้าจอจะแสดงเป็น Triac พร้อมสัญลักษณ์ของไตรแอค
3. ข้อจำกัดในการวัดอุปกรณ์ เครื่องวัดนี้เหมาะสำหรับการวัดอุปกรณ์ขนาดเล็ก ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อวัดอุปกรณ์ขนาดใหญ่ เนื่องจากกระแสที่จ่ายออกจากเครื่องวัดเพื่อทดสอบอุปกรณ์มีปริมาณน้อยเวลาวัดอุปกรณ์พวกไทริสเตอร์บางเบอร์ ( ตัวใหญ่) เช่น SCR ไตรแอค กระแสทริกมีปริมาณไม่พอที่จะทริกให้มันทำงาน เครื่องวัดจะไม่รู้จักอุปกรณ์เบอร์นั้น ๆ ( Triac Range: IGT < 6mA ) ไตรแอคบางเบอร์เครื่องวัดจะมองเป็นตัวต้านทานแทน ทรานซิสเตอร์บางเบอร์เครื่องวัดจะมองเป็นไดโอดแทน ไอจีบีทีบางเบอร์เครื่องวัดจะมองเห็นเป็นคาปาซิเตอร์แทน สำหรับอุปกรณ์ตัวใหญ่มักจะเสียในลักษณะขาด และซ๊อต ให้ใช้มัลติมิเตอร์แบบเข็มย่านวัด Rx1 หรือ Rx10 วัดยืนยันการขาดและการซ๊อตอีกครั้ง ประเด็นสำคัญที่เครื่องวัด Multi-function Tester ยังแสดงว่าเป็นไดโอด ตัวต้านทาน หรือ คาปาซิเตอร์ก็บอกทางอ้อมได้ว่าอุปกรณ์ที่วัดไม่ได้ขาดหรือซ๊อต
วัดไตรแอคเครื่องวัดมองเป็นตัวต้านทานแทน ตาม Datasheet ขาเรียง A1 A2 G ตัวที่วัดเป็นตัวอย่างนี้สภาพดีอยู่ ปกติแล้วไตรแอคถ้าใช้มัลติเตอร์แบบเข็มวัด เข็มจะวัดขึ้น 2 ครั้งคือขา G กับขา A1 และขา G กับขา A2
วัดไตรแอคเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยเครื่องวัดรุ่นราคาถูกนี้ไม่สามารถแสดงว่าความต้านทานสูงๆระดับ 45Mega Ohm ได้จึงแสดงได้เฉพาะความต้านทานระหว่างขา G กับขา A1 ( ขา 1 กับขา 2 ) ไตรแอคที่วัดสาธิตเป็นตัวใหม่และสภาพดีอยู่ จะเห็นว่าเครื่องวัดรุ่น TC1 แบบชาร์ตไฟได้ มีความสามารถมากกว่า
4. ขอบเขตที่ควรใช้งาน เครื่องวัด Multi-function Tester มีผลการวัดถูกต้องระดับหนึ่งเหมาะสำหรับใช้กับงานซ่อมทั่วไป งาน DIY และ งานทดลองในการศึกษาเรียนรู้ สำหรับงานที่เน้นผลการวัดถูกต้องสูงเช่นงานอุตสาหกรรม งานวิจัยระดับห้องแลปให้ใช้เครื่องมือวัดที่มีค่าการวัดถูกต้องและเที่ยงตรงสูงจากยี่ห้อชั้นนำ สำคัญมากก่อนวัดคาปาซิเตอร์ต้องคายประจุหรือดิสชาร์ตก่อนทุกครั้ง ถ้าไม่คายประจุทำให้เครื่องเสียหายและผลการวัดเพื้ยนได้
สเปคและขอบเขตการวัดของเครื่อง Multi-function Tester TC1 แบบชาร์ตไฟได้
5. การคาลิเบรต หรือการทดสอบเครื่องวัด เมื่อใช้ไปสักระยะเครื่องวัดเพื้ยน ให้คาลิเบรต หรือ ตามคู่มือบอกว่าให้ทำ Self Test เป็นปกติของเครื่องมือวัดทุกชนิดที่ต้องทดสอบตามระยะเวลาที่กำหนดว่าให้ผลการวัดถูกต้องและเทียงตรงอยู่หรือไม่ เสียบโลหะซ๊อตขาช่อง 123 แล้วกดปุ่ม
เมื่อทำ Self Test เสร็จหน้าจอจะแสดงแบบนี้
จบ การใช้งานเครื่องวัด LCR TC1 ( รวมถึงเครื่องที่คล้ายกัน วิธีใช้งาน LCR-T4 ESR )
30 เรื่อง การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ( เป็น ภาษาอังกฤษ) > อ่านที่เว็บนี้
อ่านต่อ อีก 25 เรื่อง เลื่อนหน้า > ด้านล่างสุดของมือถือ หรือเลือกเรื่องจากแถบด้านข้าง