เรียนช่างอะไรดี ระหว่างเรียนไฟฟ้ากำลังหรือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดีไหม ตอนท้ายตอบคำถามการเรียนช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยากไหม

ตอบคำถามการเรียนช่างว่าจะเลือกเรียนไฟฟ้ากำลังหรือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดี    มีรูปและตารางประกอบช่วยให้เข้าใจง่าย อยู่ด้านล่าง  ตอนท้ายสุดเป็นการตอบคำถามเรียนช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยากไหม   ข้อมูลที่อยู่ใบบทความนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเอง ผ่านการสมัครงาน  หางานและทำงานตามโรงงานมาก็หลายที่จนในที่สุดเมื่อหาประสบการณ์ในโลกกว้างเพียงพอแล้วปัจจุบันหันมาประกอบกิจการส่วนตัวเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาที่เรียน   จึงนำประสบการณ์และข้อมูลมาแบ่งปัน    ข้อดีของการเรียนช่างคือสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้มาทำงานตามบริษัทต่างๆ    โรงงานอุตสากรรม    ประกอบกิจการส่วนตัว   รับงานพิเศษระหว่างเรียน   ทำงาน DIY    ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาในอนาคตเราก็สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม  Up Skill  ได้เนื่องจากมีทักษะช่างพื้นฐานเป็นฐานเดิมอยู่แล้ว  สำหรับคนที่ต้องการเรียนต่อระดับสูงขึ้น ปัจจุบันก็มีมหาวิทยาลัยหลายที่เปิดสาขาให้เรียนต่อจนถึงระดับปริญญาตรี  โท  เอก  การเรียนช่างเป็นการนำความรู้+ทักษะไปใช้งานจริงและประยุกต์หลักการทางฟิสิกส์ / วิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ   ถึงแม้เราจะไม่ได้ทำงานตามโรงงาน/บริษัทต่างๆแล้วก็ตามแต่ความรู้และทักษะช่างที่มีอยู่นั้นสามารถนำไปต่อยอดได้อีกเยอะยกตัวอย่างเช่น ทำระบบ  Smart  Home   ,  Smart Farming   ใช้อุปกรณ์ IT   ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ     ดูแลระบบไฟฟ้าที่ผิดปกติให้บ้านตัวเอง  ให้เพื่อนบ้าน  ชุมชนและวัด  เป็นต้น และในอนาคตใกล้ๆนี้จะมีเรื่องรถไฟฟ้าและสิ่งที่เกียวข้องมาแน่นอน   พลังงานทดแทนแบบต่าง ๆ  ( เช่น โซลาร์เซลล์ )  อุปกรณ์   IOT  การสื่อสาร  5G  6G    เราก็จะเข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้และอยู่ในแทรนด์นี้ได้ไม่ยาก


เรียนช่างอะไรดี


เรียนไฟฟ้ากำลัง หรือ  เรียนอิเล็กทรอนิกส์

วิเคราะห์เรียนไฟฟ้ากำลังหรือเรียนอิเล็กทรอนิกส์ดี    ?

       ไฟฟ้าเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานที่สำคัญมากเราจะขาดไฟฟ้าไม่ได้เลย   ระบบไฟฟ้าทีมีอยู่ปัจจุบันนี้ก็ต้องการช่างไฟฟ้าและวิศวกรไฟฟ้ามาดูแลให้มันใช้งานได้ปกติและปลอดภัยตามหลักการและมาตฐาน   ถ้าจะออกแบบระบบไฟฟ้าใหม่ ต่อเติมไฟก็ต้องให้วิศกรไฟฟ้ามาออกแบบให้    ทุกโรงงาน  ทุกตึกขนาดใหญ่  ศูนย์การค้าต่างๆ  อาคารพาณิชย์และออฟฟิศ  ล้วนต้องการช่างไฟฟ้ามาดูแลระบบไฟฟ้าให้ทั้งสิ้น  ลักษณะงานของช่างไฟฟ้า   เช่น  ไฟฟ้าแสงสว่าง  ระบบไฟฟ้าสำรอง    ดูแลระบบแอร์   ตู้เย็น   ตู้แช่สินค้าต่างๆ   ลิฟท์   บันไดเลื่อน  ระบบดับเพลิง   ปั้มน้ำ  ระบบความปลอดภัยในอาคาร  ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องกลไฟฟ้าต่างๆ   บางที่ช่างไฟฟ้าอาจต้องดูแลระบบประปาด้วย ดูแลระบบไฟฟ้ากำลังทั้งภายนอกอาคารและภายในอาคาร เพิ่มจุดเต้ารับเต้าเสียบ  ถ้าเป็นงานในโรงงานก็ดูแลระบบอัตโนมัติต่างๆที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนในไลน์การผลิต   ดูแลระบบไฟในสายพานการผลิต   โรงงานที่ทำเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า   เครื่องใช้ไฟฟ้า  บริษัทเทคโนโลยีต่างๆ  ซอฟแวร์    ป้ายโฆษณา   นอกจากนี้สาขาไฟฟ้ากำลังยังไปเกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างและงานโยธาอีกทั้งภาครัฐและเอกชน    ดังนั้นปริมาณงานของสาขาไฟฟ้ากำลังจึงมีจำนวนงานมากโดยงานกระจายอยู่ทุกภาคอุตสาหกรรมทั้งโรงงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ  แม้กระทั้งตามบ้านเรือนทั่วไปต่างจังหวัดยังมีงานของไฟฟ้ากำลังให้ทำเยอะ   เรียนสาขาไฟฟ้ากำลังหางานง่ายเนื่องจากปริมาณงานในตลาดที่เยอะและงานแทรกอยู่ทุกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

 

เรียนอาชีวะดีไหม เรียนช่างอะไรดี

สาขาไฟฟ้ากำลัง  งานเสาไฟฟ้าแรงดันต่ำและแรงดันสูงเพื่อส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังจุดต่างๆ



เรียนไฟฟ้ากำลังหรือเรียนอิเล็กทรอนิกส์
                       ตัวอย่าง  วงจรอิเล็กทรอนิกส์


      สาขาอิเล็กทรอนิกส์เป็นการเรียนเกี่ยวกับการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มาต่อใช้งานเป็นวงจรต่างๆ   ขอบเขตของงานอิเล็กทรอนิกส์ที่แตกต่างจากสาขาไฟฟ้ากำลังคือ  อิเล็กทรอนิกส์เน้นเรียนเกี่ยวกับระบบภาพ  ระบบเสียง การขยายสัญญาณ  การสื่อสาร  การใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์  การเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมฮาร์ดแวร์    ไฟฟ้าพื้นฐานช่างอิเล็กทรอนิกส์ก็เรียนเหมือนกันกับช่างไฟฟ้ากำลังดังนั้นถ้าไฟฟ้าขัดข้องที่เป็นเรื่องไฟฟ้าพื้นฐานช่างอิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถแก้ไขปัญหาทางไฟฟ้านี้ได้   ถ้าเป็นงานเมนไฟฟ้ากำลังที่เป็นงานนอกอาคาร เช่น  ปีนเสาไฟฟ้า ติดตั้งสายไฟนั้นเป็นงานเมนของช่างไฟฟ้ากำลัง งานระบบไฟแรงดันสูงแรงดันต่ำตามถนนต่างๆก็เป็นงานเมนของช่างไฟฟ้ากำลัง   ช่างอิเล็กทรอนิกส์เน้นเรียนและสามารถต่อยอดไปทาง  Smart  Home  , Smart  Farming เกษตรอัจฉริยะ  , อุปกรณ์ IOT ต่างๆ  Rasperi  Adrino  เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรใหม่ๆ   โดรนเพื่อการเกษตร      เป็นต้น  จะต่อยอดไปทางซ่อมโทรศัพท์  อุปกรณ์ IT ต่างๆก็ต่อยอดได้ดีเช่นกัน  ระบบ AI    ซ่อมและดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ  อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ   สาขาอิเล็กรอนิกส์ต่อยอดไปซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์เทคโนโลยีได้ดี  งานช่างไฟฟ้ากำลังส่วนมากเป็นงานโปรเจครับเหมาทำเล่นไม่ค่อยได้    ส่วนงานอิเล็กทรอนิกส์สามารถนำมาทำเป็นงาน DIY  ต่างๆได้   เนื่องจากโรงงานอิเล็กทรอนิกส์และจำนวนบริษัทที่ทำงานเกี่ยวข้องกับโทรคมนาคมและการสื่อสารในไทยค่อนข้างมีจำนวนจำกัดส่งผลให้งานของช่างอิเล็กทรอนิส์มีจำนวนจำกัดไปด้วย   ถ้าคนเรียนสาขาอิเล็กทรอนิกส์และอยากหางานง่ายให้เรียนเน้นหรือไปหาเรียนเสริมพวกวิชา  ไฟฟ้าคอนโทรล  PLC   เซนเซอร์  ซึ่งวิชาเหล่านี้โรงงานต้องการช่างที่มีทักษะด้านนี้เยอะเวลาทำงานที่หน้างานจริงๆเขาให้ดูแลเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติต่างๆมันจะมีงานปนกันทั้งงานส่วนที่เป็นงานไฟฟ้าคอนโครล และงานส่วนวงจรอิเล็กทรอนิกส์ช่างก็ต้องทำงานให้เป็นทั้งหมด  ถึงแม้โรงงานจะรับช่างเมนอิเล็กทรอนิกส์และเมนไฟฟ้ากำลังมาด้วยก็จริง  ถ้าเราทำงานได้หมดโอกาสหางานง่ายก็สูงขึ้นมาก อีกทั้งเรียนจบแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องหางานเลยเพราะเรามีทักษะช่างที่โรงงานต้องการอยู่แล้ว   จึงแนะนำคนเรียนสาขาอิเล็กทรอนิกส์ถ้าเรียนเน้นหรือไปหาเรียนเสริมวิชาไฟฟ้าคอนโทรล  PLC  เซนเซอร์แบบต่างๆ  ก็จะหางานทำตามโรงงานอุตสาหกรรมได้ง่ายเนื่องจากตำเหน่งงานที่เกี่ยวกับไฟฟ้าคอนโทรล PLC  เซนเซอร์ มีตำเหน่งงานรองรับเยอะกว่างานวงจรอิเล็กทรอนิกส์มาก   ให้ดูรูปในตารางประกอบสาขาไฟฟ้ากำลังจะเน้นวิชาเมนของไฟฟ้ากำลัง  สาขาอิเล็กทรอนิกส์จะเน้นเรียนวิชาเมนของอิเล็กทรอนิกส์  ส่วนช่องตรงกลางสามารถเรียนได้ทั้งสาขาไฟฟ้ากำลังหรืออิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากเป็นวิชาต่อยอดจากวิชาพื้นฐาน     นอกจากนี้ยังมีสาขาวิชาใหม่ๆที่เน้นเรียนเฉพาะด้านไปอีก เช่น สาขาวิชาระบบวัดคุม สาขาวิชาแมคคาทรอนิกส์ เป็นต้น

ให้เช็คความชอบความถนัดของตัวเอง   เทรนด์ของเทคโนโลยี   และปริมาณตำเหน่งงานในตลาด  รวมถึงงานที่อยากทำจริงๆเพื่อประกอบเป็นอาชีพในอนาคตด้วยมาเป็นเกณฑ์ในการเลือกสาขาที่จะเรียน  

 


ตอบคำถามการเรียนช่าง :  เรียนช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยากไหม   ?

คำตอบคือไม่ยากเกินไปและก็ไม่ง่าย  คิดว่าคนส่วนมากสามารถเรียนได้และก็สามารถเช็คตัวเองตอนนี้ได้เลยว่าชอบและเหมาะที่จะเรียนช่างไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ไหม  ?  การเรียนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ทั้งในระดับ ปวช ปวส  ป.ตรีหรือวิศวะ  ต้องมีการนวณหาค่ากระแส แรงดัน ความต้านทาน  แก้สมการต่างๆ  เพื่อหาค่าของอุปกรณ์ต่างๆที่จะต้องใช้ในวงจร   ให้เช็คตัวเองว่าวิชาคณิต ฟิสิกส์และภาษาอังกฤษเรียนได้ดีระดับหนึ่งไหม  ?    การเรียนช่างไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์นั้นคณิตศาสตร์ต้องดีระดับหนึ่ง วิทยาศาสตร์ต้องดีระดับหนึ่งโดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์เพราะเป็นพื้นฐานของช่างหรือวิศวะทุกสาขา ภาษาอังกฤษต้องใช้ในการอ่านตำราภาษาอังกฤษด้วยเพราะสาขาเทคโนโลยีต่างๆจะอ่านเพียงตำราภาษาไทยนั้นมันไม่เพียงพอ ตอนทำงานต้องอ่านคู่มือการทำงานของเครื่องซึ่งเป็นภาษาอังกฤษและอ่านสเปคของอุปกรณ์ต่างๆก็เป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน  หลายครั้งการทำงานจริงๆต้องติดต่อกับต่างประเทศ ถ้าได้ทำงานกับบริษัทต่างชาติภาษาอังกฤษก็ยิ่งจำเป็นและสำคัญมากขึ้นไปอีก    


เรียนช่างอะไรดี  เรียนไฟฟ้ากำลังหรือเรียนอิเล็กทรอนิกส์

น้องๆที่เรียนระดับมัธยมปลายมีการเรียนวิชาฟิสิกส์ก็จะมีบทที่เป็นเรื่องไฟฟ้าอยู่หลายบทเรียนตรงนั้นให้แน่นและเรียนให้เข้าใจเพราะเป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก  สำหรับน้องๆที่เรียน ม.ต้น ก็ให้เน้นคณิตและวิทยาศาสตร์ให้เข้าใจเพราะนอกจากจะใช้เรียนต่อ ม.ปลายแล้วถ้าเรามีพืนฐานดีตั้งแต่ตอน ม.ต้นนี้ อนาคตเราก็จะเรียนได้ดีเพราะจากการสังเกตหลายๆวิชาที่เรียน มันจะเป็นวิชาต่อเนื่องกันถ้าเรียนวิชาพื้นฐานให้เข้าใจดีตั้งแต่เทอมแรกปีแรก การเรียนวิชาต่อเนื่องก็จะง่ายไปด้วย  ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราเรียนเข้าใจเรื่องตรีโกณมิติดีก็จะทำให้เราเรียนวิชาไฟฟ้ากระแสสลับเข้าใจง่ายไปด้วยเนื่องจากในวิชาไฟฟ้ากระแสสลับจะมีเรื่องมุมเฟสทางไฟฟ้าและนำเรื่องมุมต่างๆนี้ไปแก้สมการทางไฟฟ้ากระแสสลับเยอะมาก  ถ้าเราเรียนเข้าใจเรื่องการแก้สมการในวิชาคณิตจะทำให้เราเรียนวิชาไฟฟ้ากระแสตรงหาค่าตัวแปรทางไฟฟ้าต่างๆ เช่น  V   I   R   เมื่อเรียนเข้าใจก็จะรู้สึกสนุกกับมันในการเรียนรู้บทต่อๆไป     สำหรับการเรียนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในระดับ  ป.ตรีนั้นจะมีวิชาคณิตศาสตร์ขั้นสูง  การแก้สมการทางไฟฟ้าและวิเคราะห์วงจรไฟฟ้านั้นก็จะใช้คณิตศาสตร์ขั้นสูง   แต่ไม่ต้องกังวลเพราะถ้าวิชาพื้นฐานเราดีระดับหนึ่งบวกกับตอนเรียนเราก็ตั้งใจเรียนมันจะช่วยเสริมกันให้เรียนได้ดีแน่นอน 


เลือกเรื่องถัดไปที่น่าสนใจ   อ่านต่อ  

เช่น  การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์   มี  17 ตอน